หลี่ปู้เหว่ย และการค้าพิสดาร
หลี่ปู้เหว่ย (291–235 ก่อนคริสตกาล) อดีตพ่อค้าคหบดีผู้ร่ำรวย ที่สามารถก้าวสู่อำนาจ ได้เป็นถึงอัครมหาเสนาบดีแห่งรัฐฉิน
หลี่ปู้เหว่ย ภาพจาก ทีวีซีรีส์ จิ๋นซีฮ่องเต้จอมจักรพรรดิผู้พิชิต
หลี่ปู้เหว่ยเป็นชาวรัฐเว่ยปลายยุคจ้านกั๋ว เป็นพ่อค้าคหบดีผู้ร่ำรวย เดินทางทำการค้าในหลายๆรัฐ เมื่อเดินทางมาค้าขายที่ นครหานตาน เมืองหลวงรัฐเจ้า บังเอิญได้รู้จักอี้เหริน หลานปู่เจ้ารัฐฉินผู้มาเป็นตัวประกันอยู่ในรัฐเจ้า เมื่อหลี่ปู้เหว่ยทราบที่มาของอี้เหรินแล้ว ด้วยความที่เป็นพ่อค้าจึงคิดการค้าพิสดาร ที่ลงทุนหากำไรกับอี้เหริน ด้วยการสัญญากับอี้เหรินว่าจะช่วยนำเขาตัวกลับรัฐฉิน และจะช่วยให้อี้เหรินได้เป็นเจ้านครรัฐด้วย อี้เหรินได้ยินดังนั้น ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง และสัญญากับหลี่ปู้เหว่ยว่าถ้าได้กลับรัฐฉิน และเป็นเจ้านครรัฐแล้ว จะแบ่งอำนาจให้แก่หลี่ปู้เหว่ย
เมื่อตกลงกันแล้ว หลี่ปู้เหว่ยจึงเดินทางไปรัฐฉิน และวางแผนเข้าหา ฮวาหยางฮูหยิน ซึ่งชายาคนโปรดของรัชทายาทรัฐฉิน อานกั๋วจวิน โดยมอบเพชรนิลจินดา และสินค้ามีค่าแปลกๆ แก่ ฮวาหยางฮูหยิน และบอกว่าเป็นของกำนัลจากอี้เหริน จนสามารถโน้มน้าวให้ฮวาหยางฮูหยิน รับอี้เหรินมาเป็นบุตรบุญธรรม (ฮวาหยางฮูหยินไม่มีบุตร) และแต่งตั้งอี้เหรินเป็นรัชทายาทต่อจาก อานกั๋วจวิน
เมื่อแผนการแรกสำเร็จแล้ว หลี่ปู้เหว่ยยังมีแผนการต่อมา เมื่อทราบว่าอี้เหริน หลงรัก เจ้าจี ที่เป็นนางบำเรอของตน หลี่ปู้เหว่ยจึงมอบเจ้าจี ให้เป็นภรรยาของอี้เหริน ซึ่งในขณะนั้น เจ้าจีได้ตั้งครรภ์กับหลี่ปู้เหว่ยแล้ว โดยคาดหวังว่า ทายาทของตนจะได้เป็นเจ้าครองนครรัฐฉินต่อไป ไม่นานเจ้าจีก็ให้กำเนิดบุตรชาย ตั้งชื่อว่า เจิ้ง ซึ่งต่อมาคือ จิ๋นซีฮ่องเต้
เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน หลี่ปู้เหว่ย จึงช่วยอี้เหริน หลบหนีจากรัฐเจ้ากลับรัฐฉิน ได้สำเร็จ ในปี 250 ก่อนคริสตกาล อานกั๋วจวินได้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้านครรัฐฉิน แต่ดำรงตำแหน่งได้ไม่กี่วันก็สิ้นพระชนม์ โดยว่ากันว่าหลี่ปู้เหว่ยอยู่เบื้องหลัง เพื่อให้อี้เหรินได้เป็นเจ้านครรัฐต่อไป และทรงพระนาม ฉินจวงเซียงหวาง ส่วนเจ้าจีนั้น ได้เป็นชายาเอก เจิ้ง ได้เป็นรัชทายาท และ หลี่ปู้เหว่ยได้เป็นอัครมหาเสนาบดี มีอำนาจสูงสุดรองจาก ฉินจวงเซียงหวาง เท่านั้น
อี้เหริน ฉินจวงเซียงหวาง เป็นเจ้านครรัฐไม่กี่ปีก็สิ้นพระชนม์ เจิ้งรับตำแหน่ง ฉินหวาง ต่อไป เจ้าจี ได้รับการสถาปนาเป็นไทเฮา ด้วยเจิ้งยังวัยเยาว์ หลี่ปู้เหว่ยจึงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนฉินหวางเจิ้ง ร่วมบริหารราชการกับไทเฮาเจ้าจี และเป็นโอกาสให้ทั้งสองเล่นชู้กัน ในยามนี้หลี่ปู้เหว่ยกุมอำนาจสูงสุดในรัฐฉิน มีข้าทาสบริวาร อำนาจ บารมี และทรัพย์สมบัติมากมาย
ในช่วงที่หลี่ปู้เหว่ยมีอำนาจสูงสุด ทั้งบารมี และ ทรัพย์สิน เพื่ออวดอ้างอำนาจบารมี จึงรวบรวมบัณฑิต มาจัดทำเรียบเรียงสารานุกรม หลี่ซือชุนชิว ขึ้น เพื่อรวบรวมแนวคิดปรัญชาสำนักต่างๆ ยุคก่อนราชวงศ์ฉิน
ด้วยวัยที่มากขึ้นและ เกรงว่าเรื่องชู้กับไทเฮาจะแพร่งพรายไป หลี่ปู้เหว่ยจึงต้องการหยุดความสัมพันธ์กับไทเฮาเจ้าจี และได้แนะนำ เล่าไออันธพาลหัวไม้และขึ้นชื่อลือชาเรื่องกามา ให้แก่เจ้าจีโดยให้เล่าไอ ปลอมเป็นขันที เข้าไปรับใช้ ปรนนิบัตรไทเฮาเจ้าจี
ต่อมาเล่าไอมีความสัมพันธ์กับไทเฮาเจ้าจีจนมีลูก ด้วยความทะเยอทะยานและเกรงว่าจะปกปิดเรื่องไว้ต่อไปไม่ได้ ขณะที่ ฉินหวางเจิ้งก็เจริญวัยขึ้นพร้อมที่จะบริหารราชการเอง เล่าไอจึงก่อการกบฏ แต่ฉินหวางเจิ้งสามารถปราบปรามลงได้ ขณะเดียวกันฉินหวางเจิ้งก็ทรงไม่พอพระทัยหลี่ปู้เหว่ยที่กุมอำนาจและมีอิทธิพลในราชสำนัก จึงหาเรื่องกำจัดหลี่ปู้เหว่ย โดยอ้างเรื่อง เล่าไอ่เป็นคนที่หลี่ปู้เหว่ยแนะนำมา หลี่ปู้เหว่ยถูกเนรเทศไปชายแดน ในระหว่างทาง ฉินหวางเจิ้งได้บีบคั้น หลี่ปู้เหว่ย จนต้องฆ่าตัวตายในที่สุด
Recent Comments